จั่วหัวอย่างนี้บางท่านอาจรู้สึกเหมือนนั่งแชท MSN เมนต์ Hi5 รึส่องกบอยู่ เพราะ “หมายเลข 5” ถูกนำมาใช้แทน “อาการขบขัน” ในโลกไซเบอร์จนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว โดยปริมาณของความขำจะแปรผันตรงกับปริมาณของเหมายเลข 5 ที่ปรากฏ ซึ่งบางคนอาจเลือกใช้เครื่องหมายบวกเพื่อแทนปริมาณทั้งหมด
แต่สำหรับโลกลูกหนัง หมายเลข 5 กลับมีความหมายมากกว่าแค่การขำ เมื่อยอดทีมจากเกาะอังกฤษนาม “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” กำลังเดินอยู่บนเส้นทาง 5 แชมป์ ไม่ว่าจะเป็น แชมป์สโมสรโลก, คาร์ลิ่ง คัพ, เอฟเอ คัพ, พรีเมียร์ ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แถมยังมีบวกเป็นติ่งอีก 1 ถาด จาก คอมมูนิตี้ ชิลด์
ซึ่งหากกองทัพปีศาจสามารถทำได้สำเร็จจริง ก็จะกลายเป็นทีมแรกบนพื้นพิภพที่กวาดเกลี้ยงทุกรายการใหญ่ที่ตัวเองเสนอชื่อเข้าร่วมท้าชิง
แว่วเสียง 5 แชมป์เริ่มเล็ดรอดออกมาให้ได้ยินหลังขุนพลปีศาจกรีฑาทัพกลับมาจาก “สมรภูมิเอวี” ด้วยบรรดาศักดิ์ “จ้าวโลก” และยิ่งดังกระหึ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเหล่าอสูรจัดการกระชาก “บอลถ้วยเล็ก” มาเชยชมได้สำเร็จ เท่ากับว่าวีรกรรมล่าแชมป์ เหลืออีกเพียงแค่นับ 3 เท่านั้น โดยทั้ง 3 รายการนั้นเคยมุ่งหน้าสู่โรงละครแห่งความฝันโดยมิได้นัดหมายมาแล้ว ในช่วงเทศกาลพฤษภาหรรษา 1999 ส่งผลให้เหล่าแฟนผีต่างเห็นพ้องต้องกันว่าไฉนจะมีประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก 10 ปีให้หลังไม่ได้
แต่เอาเข้าจริง การลากทั้ง 3 แชมป์เมเจอร์มาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งในปีนี้ก็ดูจะไม่ใช่งานหมูๆ อย่างที่หวังนัก เมื่อมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่พร้อมจะทำตัวเป็นคานเข้ามาสอดได้ตลอดเวลา
1. โปรแกรมเตะมหาโหด
เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมักมากก็ต้องทำใจกับคิวลงสนามที่แน่นเอี๊ยด เอาแค่เมษายนเดือนเดียว ปีศาจแดงก็ฟันไปทีมเดียว 7 เกมเหนาะๆ ยิ่งถ้าเวทียุโรปสามารถผ่านอริจากแดนฝอยทองไปได้ ก็จะได้รับโปรโมชั่นเพิ่มฟรี 1 นัดทันที ลงสนามกันสุดสัปดาห์-กลางสัปดาห์ ทุกสัปดาห์ เรียกว่าเตะกันให้ตายไปข้างเลยทีเดียว จาก “มหาสงกรานต์” กลายเป็น “เมษาทมิฬ” ไปในบัดดล แล้วจะเอาเวลาที่ไหนพักหายใจหายคอกันเนี่ยปีศาจแดงเอ๋ย
2. สภาพและความพร้อมของนักเตะ
สืบเนื่องมาจากปัจจัยแรก ทำให้ท่านออกญา “อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” จำเป็นต้องพึ่งบริการ “โรเตชั่น” เพื่อจัดกองทัพที่ดีที่สุดลุยสงครามทั้ง 3 ทัพ ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะเป็นการโรเตชั่นที่มีระบบแน่นอน แต่ถึงกระนั้นโปรแกรมลงสนามแบบถี่ยิบก็เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บอยู่ดี โดยท่านออกญาถึงกลับออกปากเองว่า นักเตะบาดเจ็บนี่เองจะเป็นตัวตัดสินแชมป์ ที่สำคัญปีนี้เหล่าขุนพลของท่านออกญาพากันทำตัว “ฮาร์ดคอร์” เกินเหตุ เมื่อกวาดใบแดงรวมกันไปแล้วถึง 6 ใบ ส่งผลให้ต้องหยุดไปรับใช้ชาติกันคนละนัด 2 นัด เสียนักเตะที่พร้อมลงสนามไปอย่างไม่ใช่เหตุซะอย่างนั้น
3. แชมป์เก่า ใครๆ ก็อยากโค่น
“จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน” ในฐานะแชมป์เก่า 2 สถาบัน ทำให้ยูไนเต็ดถูกหมายหัวไว้ตั้งแต่ต้น ทีมเล็กอยากสร้างชื่อ ทีมกลางอยากปีนเกลียว ทีมใหญ่ก็อยากข้ามหัวขึ้นไปแทน จึงไม่ง่ายที่จะคว้าชัยชนะในแต่ละเกม อันจะเห็นได้จากบรรดากุนซือบิ๊กเนมต่างนัดพาเหรดประกาศตัวเป็น “จระเข้ขวางคลอง” กันถ้วนหน้า แถมยังยุยงส่งเสริมบรรดาทีมเล็กทีมน้อยให้รุมกินโต๊ะกันอีกต่างหาก ทำยังไงได้…ก็เรามันเก่ง!
4. กดดันตัวเอง
เป้าหมายสูงก็ย่อมต้องกดดันเป็นธรรมดา ในรายของ “บอลถ้วย” กับ “บอลยุโรป” นั้นดูไม่ค่อยส่งผลเท่าไหร่ เพราะอยู่บนพื้นฐานของการช่วยตัวเองเป็นหลัก แต่สำหรับ “บอลลีก” ที่ใช้การนับคะแนนและผลต่างประตูได้เสียแล้ว การที่ปล่อยให้คู่แข่งแซงหน้าไปก่อน แม้จะมีจำนวนนัดเหลือในมือมากกว่า แต่ก็ดูจะไม่ใช่สิ่งน่าพิสมัยเท่าไหร่นัก ซึ่งเมื่อสอดส่องคิวลงสนามของผู้ท้าชิงหมายเลขหนึ่งอย่าง “ลิเวอร์พูล” อริตัวเอ้ได้สิทธิลงสนามก่อนหน้าถึง 2 นัด (4 และ 21 เมษายน) ซึ่งหากเก็บชัยได้พวกเขาจะตีปีกขึ้นนำอย่างร่าเริง ความกดดันจะตกมาอยู่ฝั่งปีศาจแดงทันที เมื่อต้องลงเล่นตามหลังเพื่อ 3 แต้มเท่านั้น!
แต่อย่างไรเสีย แต้มเดียวที่นำอยู่รวมกับจำนวนลงสนามในมือที่มากกว่า 1 นัด ทำให้ปีศาจแดงอยู่ในฐานะที่ดีกว่าคู่แข่งเป็นไหนๆ แม้จะพ่ายมา 2 นัดติด แต่การได้พักตั้งสติในช่วงคัดบอลโลกก็น่าจะช่วยเรียกสมาธิของพลพรรคปีศาจกลับมาได้ดังเดิม ที่เหลือก็แค่อย่างสะดุดยอดหญ้าเองอีกก็แล้วกัน
หากไม่มีลม ธงก็จะไม่สะบัด เพราะมีอุปสรรคขัดขวางนี่เอง จึงมีการฝึกฝน
ประสบการณ์ 10 พรีเมียร์ ลีก, 5 เอฟเอ คัพ และ 2 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายใต้ผู้มีบารมีแต่เพียงผู้เดียว ก็พอจะทำให้บรรดาแฟนผีมั่นใจได้ว่า “ป๋าเฟอร์กี้” น่าจะรับมือกับแรงกดดันต่างๆ นานาได้ดีกว่าใคร แม้จะออกตัวว่าไม่ได้หวังถึง 5 แชมป์ แต่เชื่อแน่ว่ากุนซือเมืองวิสกี้เน้นทุกนัดที่ลงสนามแน่นอน
แม้บรรดาเด็กต่างสีจะพากันสุมหัวขบขันกับโครงการ “เบญจภาคี” รวมทั้งยังปรามาสว่าคงเป็นแค่ฝันเท่านั้น ซึ่งเหล่าเด็กผีอย่างเราก็ได้แต่รับฟังอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่หวังอะไรมาก…แค่ขอเหมาหมดก็พอ!
เส้นทาง 5 แชมป์ แม้จะยังอีกยาวไกลและเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ยั้วเยี้ยมากมาย แต่จุดหมายปลายทางมันช่างไพเราะเสนาะหูเสียเหลือเกิน…
ควินทูเปิลแชมป์
chokechone11
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC
